Monday, January 15, 2007

เด็กข้างถนน : โดย ท.เลียงพิบูลย์ 11

บอกว่า บัดนี้พระภิกษุรูปนั้นได้ถอนกลดเดินทางต่อไปแล้ว ไม่ทราบว่าเดินทางไปไหน เพราะไม่มีใครเห็น ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาก็ไม่ได้ทราบข่าวจากท่านอีกเลย นี่แหละครับเรื่องของผม ส่วนบุตรบุญธรรมของผมนั้น ผมรู้สึกเป็นสุขมากที่ได้แกมาเป็นบุตร การมีบุตรของคนทั่วๆ ไปนั้น ความรักใคร่ในระหว่างพ่อแม่กับบุตรในไส้ของตน จะมีมากเพียงไรผมไม่ทราบ เพราะผมไม่เคยมี แต่สำหรับบุตรของผมคนนี้ รู้สึกว่าแกเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผม ผมจะขาดแกเสียมิได้ ผมอาจจะสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแกได้ บัดนี้แกก็ได้ศึกษาในสิ่งที่แกสนใจ ซึ่งผมได้จ้างครูมาสอนจน เป็นที่พอใจในความรู้ที่แกได้รับ และต่อมาผมได้มอบงานให้แกทำด้วยความไว้วางใจ ในความขยันและความซื่อสัตย์สุจริตของแก เป็นที่รักใคร่นับถือของนายงานและคนงานทั่วไป เพราะแกปฏิบัติต่อคนงานด้วยความเมตตาปรานีและเห็นอกเห็นใจ เมื่อข้าพเจ้าได้ฟังท่านผู้นั้นเล่าเรื่องยืดยาวด้วยความเพลิดเพลินจบลงแล้ว มีหลายท่านที่อยู่ในที่นั้นต่างก็ลงความเห็นว่า เด็กคนนั้นคงจะเป็นบุตรของท่านผู้เล่าในอดีตชาติ มิฉะนั้นก็คงไม่ประจวบเหตุการณ์อันแสดงถึงจิตใจ ให้มองเห็นความดีเด่นอย่างอัศจรรย์ และเป็นเด็กที่มีอัจฉริยะผู้หนึ่ง จึงได้เข้าถึงศีลธรรมตั้งแต่อายุยังเยาว์เช่นนี้ ในหมู่ผู้ที่นั่งฟังอยู่ด้วย มีท่านผู้หนึ่งซึ่งเป็นข้าราชการเก่า เป็นผู้มีอาวุโสที่สุดในหมู่พวกที่นั่งสนทนา ท่านมีความสนใจในเรื่องนี้มาก เมื่อเห็นมีผู้วิจารณ์เรื่องนี้ มีความเห็นต่างๆ กัน ก็อดอยู่ไม่ได้ จึงพูดกับผู้เล่าอย่างสะเทือนใจและน้อยใจว่า “คุณเป็นคนโชคดี แม้จะมีบุตรบุญธรรมคุณก็ยังได้รับความสุขสบายใจ ดีกว่าผมมีบุตรในไส้ เพราะเด็กของคุณมีความเคารพ กตัญญูรู้คุณ มีจิตใจสูง รู้ศีลธรรม รู้ดีรู้ชั่ว เพราะคุณชนะจิตใจของเด็กด้วยการให้ และประกอบด้วยเมตตากรุณา ส่วนเด็กก็ชนะใจคุณด้วยความกตัญญูที่เกิดขึ้นเอง เป็นนิมิตอันดียิ่ง นับว่าคุณเป็นผู้มีบุญกุศลที่ได้เคยสร้างสมไว้แต่ปางก่อน จึงได้มาพบบุตรเลี้ยงที่ดีเช่นนี้ สำหรับผมเป็นคนโชคร้าย ผมมีบุตรชาย ซึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข เลือดในอกของผมแท้ๆ เขาก็ไม่ค่อยอยู่ในโอวาทนัก เห็นจะเป็นเพราะอบรมผิดมาแต่เด็กๆ แต่เขาก็เป็นลูกที่ผมมีความรัก และเอ็นดูตามอกตามใจตลอดมา ครั้งเขามีครอบครัวแล้ว ทรัพย์สมบัติซึ่งผมได้อุตส่าห์ออมสะสมไว้ตั้งแต่ยังหนุ่มๆ ผมก็ได้โอนให้หมด เพราะเห็นว่าเราแก่แล้วถึงอย่างไรเราก็ต้องให้ลูกวันยังค่ำ เราควรจะให้เขาเสียเมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ แต่แล้วต่อมาผมก็รู้สึกเสียใจที่คิดผิดไป เพราะบัดนี้ลูกของผมมองเห็นผมเป็นเพียงคนแก่ๆ คนหนึ่ง เหมือนไม่ใช่พ่อของเขา เป็นคนแก่จนๆ ที่ไม่มีทรัพย์สมบัติติดตัว ต้องอาศัยเขาอยู่อาศัยเขากิน เขาแสดงกิริยารังเกียจ ด่าคน ด่าหมากระทบอยู่ทุกวัน คล้ายๆ กับผมอยู่ไปก็เปลืองข้าวสุกไม่เป็นประโยชน์ นอกจากทำความรำคาญให้เขา ผมจะกินข้าวแต่ละครั้งกลืนไม่ค่อยจะลงคอเลย ผมต้องคิดมาก ใจคอมันตื้นตันน้ำตาตกใน มันน้อยใจตัวเอง ผมต้องใช้ทางพระเข้าช่วย เพื่อสำรวมจิตใจดับไฟแห่งโทสะและความน้อยใจ มิให้มันเข้าไปเดือดอยู่ในความรู้สึกให้มันผ่านเลยไป นึกเสียว่าชาติก่อนเราทำกรรมไว้ ชาตินี้กรรมจึงตามสนองเรา ต้องก้มหน้าใช้กรรมจนกว่าจะหมด เพราะอายุเราก็มากแล้วคง ทนอยู่ได้ไม่นานก็จะหมดเวรหมดกรรม เราได้ทำความดีมาแต่ต้นแล้ว ก็ควรจะทำให้ตลอดไป นึกได้เช่นนี้ก็มีความรู้สึกสงบเย็นชาไป ถ้าไม่นึกเอาพระธรรมเข้าข่มไว้ปล่อยให้เป็นไปตามอารมณ์ ก็คงเสียสติ หรือมิฉะนั้นก็อกคงแตก หรืออาเจียนมาเป็นโลหิตแน่ หรือทนไม่ไหวฆ่าตัวตายก็ได้ นี่ยังบุญอยู่หน่อยที่หลวงท่านยังให้บำนาญพอจะใช้จ่าย พอได้ทำบุญทำทานได้บ้างเล็กๆ น้อยๆ และก็ต้องหาความสงบในทางเข้าวัด สนทนากับพระกับเจ้า บัดนี้ผมอยู่วัดมากกว่าอยู่บ้าน บั้นปลายของชีวิตต้องศึกษาทางธรรมที่จะกำจัดกิเลสให้เบาบางลงทำให้จิตใจสงบ จึงมีชีวิตผ่านไปได้วันหนึ่งๆ จนกว่าจะจากโลกนี้ไป ผมคิดว่าในที่นี้ไม่มีใครโชคร้ายในเรื่องบุตรเท่ากับตัวผม” พวกเราได้ฟังแล้วก็เศร้าใจ และเห็นใจท่านผู้นั้นมาก คืนนั้นเราสนทนากับอยู่จนพระสวดอภิธรรมจบ พระกลับวัดไปนานแล้ว เราได้รับความรู้หลายอย่างที่พอจะนำมาขบคิดได้ เจ้าภาพได้จัดเลี้ยงข้าวต้มกุ้งในตอนดึก หลังจากนั้นเราก็ต่างลาเจ้าภาพ และเพื่อนร่วมสนทนาเดินทางกลับ เมื่อกลับมาถึงบ้านแม้จะเป็นเวลาดึกแล้ว แต่ข้าพเจ้าก็นอนไม่หลับ อดนำเรื่องต่างๆ มานึกคิดไม่ได้ว่า อันบุคคลในโลกนี้ ไม่ว่าผู้ใดจะมีการศึกษาความรู้สูงก็ดี ความรู้ต่ำก็ดี สิ่งเหล่านี้มิได้เป็นเครื่องวัดจิตใจว่าจะเป็นผู้ที่มีจิตใจสูง อยู่ในศีลธรรมประกอบกรรมดี ความดีมิได้เลือกว่าจะเกิดในตระกูลสูงหรือต่ำ ศีลธรรมและความดีจะเกิดขึ้นได้กับบุคคลทุกชั้นไม่ว่าจะยากจน มั่งมี ความรู้สูงหรือต่ำและผู้ที่ประกอบกรรมทำชั่ว ใจต่ำ ย่อมจะเกิดกับคนทุกชั้นได้เช่นเดียวกัน และอดคิดไม่ได้ว่าเยาวชนของเรา หากได้ป้องกันโดยการอบรมศีลธรรมเสียตั้งแต่อายุยังน้อย ให้ซาบซึ้งถึงกรรมดี กรรมชั่ว สิ่งใดควรประพฤติ และสิ่งใดไม่ควรประพฤติ ให้เชื่อกฎแห่งกรรมย่อมตามสนอง คนชั่วย่อมได้รับทุกข์คนดีย่อมได้รับความสบายทางจิตใจ เด็กย่อมมีอารมณ์พอที่จะรับเชื้อทางศีลธรรมได้ง่าย พอที่จะซึมเข้าไปทางจิตใจ เป็นเครื่องที่จะคุ้มกันสิ่งที่ชั่วไม่ให้ผ่านไปถึงจิตใจได้ ธรรมดาเด็กเมื่อได้ตกลงฝังจิตใจในความดีและศีลธรรมแล้ว ย่อมจะยึดถือมั่น อยากจะปฏิบัติทำความดี ชังความชั่วตลอดไป เช่นเรื่องของ “เด็กข้างถนน” ซึ่งเป็นผู้ที่ยึดถือศีลธรรมจากคำสั่งสอนของยายและท่านสมภาร แล้วก็ได้ถือเป็นหลักปฏิบัติเป็นตัวอย่างที่หาได้ยากในสมัยปัจจุบันนี้ ที่จะหาผู้ปกครองรุ่นเก่าๆ ที่จะคอยอบรมสั่งสอนลูกหลานที่ยังเยาว์ ให้ประกอบกรรมดี ดังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าคิดเรื่องหนึ่ง สำหรับผู้ปกครองในปัจจุบันนี้